ข้อมูลเบื้องต้น
เรื่อง : รักแผ่วเบา....ที่เธอไม่ได้ยิน
..................................................................................
ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดา เวลาคุณเห็นคุณอาจจะไม่สนใจ เพราะในตัวฉันไม่ได้มีจุดเด่นตรงไหน ที่ใครๆอาจหันมามองเหมือนผู้หญิงสวยทั่วไป ฉันเป็น นศ ของมหาลัยเอกชนเเห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าบอกไปแล้ว คุณก็คงจะไม่รู้จักอยู่ดี และนี่ คือเรื่องราวของฉัน.. .
สามเดือนก่อน...
ฉันทะเลาะกับแฟน ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เราไม่เข้าใจกันแบบนี้ อาจเป้นเพราะฉัน ขี้งอนเกินไป หรือ อาจเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจกันแน่ ฉันเองก็ไม่แน่ใจ
ฉันนั่งลงตรงม้านั่ง หน้าตึกของคณะหลังเรียนเสร็จ ฉันเหม่อมองไปบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ พลันน้ำตาไหลตอนนไหนไม่รู้...
" ร้องไห้อีกแล้วหรอ?? ทะเลาะกับแฟนมาอีกแล้วละดิ.."
เสียงที่คุ้นเคียงที่ฉันได้ยินทุกวัน และได้ยินทุกครั้งเมื่อตอนฉันไม่สบายใจ
ฉันหันหน้าไป แน่นอนแหละ เสียงนั้นเป็นเสียงเพื่อนฉันเอง เพื่อนที่ฉันสามารถปรึกษาได้ทุกเรื่อง เขา ชื่อ ดิว แต่ฉันไม่ได้เจอดิวมากว่าสัปดาห์แล้ว เพิ่งเจอนี่แหละ ทั้งที่ ดิว เป็นคนไม่เคยขาดเรียน..
ดิว เป็นคนที่จัดว่า หน้าตาพอใช้ได้ และนิสัยดีมาก ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ฉันก็จะมาปรึกษาดิวนี่แหละ และดิวอีกเช่นเคยที่สามารถช่วยให้ฉันรู้สึกสบายใจได้
"ไหนมีไรว่ามา...."
เสียงออกแนวจริงจัง ซึ่งจะเป็นทุกครั้งที่ฉันมาขอปรึกษา..
"ทำไมเขาไม่เข้าใจฉันเลยอ่ะ แก...ฉันควรทำไงดี..ฉันไม่ไหวแล้วน่ะ!!"
ฉันร้องให้ต่อหน้าเขาอย่างปวดร้าว บางทีฉันก็คิดน่ะ ว่าทำไมดิวต้องมารับฟังเรื่องของฉันด้วย แต่ฉันมีแค่เขานี่แหละ ที่เข้าใจฉัน...
"ใจเย็นสิว่ะ...แกบอกว่า เขาไม่เข้าจัยแก..แล้วทำไมแกไม่ลองเข้าใจเขาบ้างว่ะ เมื่อเราเข้าใจเขาน่ะเว่ย สิ่งที่เราจะได้กลับมาก็คือ ความเขาจัยจากเขาไง ....."
เขาพูดมีเหตุผล ฉันไม่เคยคิดจะเข้าจัยแฟนของฉันเลย..
"เอางี้...แกลองไปคุยกันไหม่ คุยดีๆ แล้วปรับความเข้าจัยกัน อย่าใช้อารมณ์เพราะถ้าใช้อารมณ์เมือ่ไหร่ เรื่องมันก้อไม่จบ..."
"ก็ได้ ..เดี่ยวฉันจะลองคุยกับเขาอีกที..."
ดิว ยิ้มให้ฉัน แล้วก็เดินมาส่งฉันที่บ้านเหมือนเคย...พร้อมกับลากลับไป ด้วยร้อยยิ้มที่ฉันคุ้นเคย กี่ครั้งแล้วน่ะ ที่ฉันต้องให้เขาปลอบแบบนี้..
คืนนั้น ฉันโทรไปเคลียกับแฟนฉันอย่างที่ดิวบอก สุดท้ายเราก็เข้าจัยกัน..
หนึ่งสับดาห์ ต่อมา
ฉันทะเลาะกับแฟนอีกแล้ว คราวนี้ฉันตั้งใจจะตัดขาดกับเขาแล้ว เพราะว่าเราไม่เข้ากันจิงๆ ไม่มีไรเข้ากันเลย..
..ฉันมองหาดิว...เพื่อจะปรึกษาเรื่องนี่เช่นเคย...แต่ฉันจำได้ว่าดิวไม่มาเรียนอีกเลย ตั้งแต่ วันที่ไปส่งฉันที่บ้าน ครั้งกอ่น...
ฉันตัดสินใจไปหาดิว ที่บ้าน ซึ่งนานๆครั้งที่ฉันจะไป บ้านดิวอยู่ไม่ไกลจากบ้านฉันสักเท่าไหร่ ประมาณ สามกิโล
ติงต่อง...ติงต่อง..
"ดิว อยู่ไหม...นี่น้ำเองน่ะ.....ดิวๆๆ"
สักพักหนึ่งก็มีคนเปิดประตูออกมา...
"อ่าว...หนูน้ำเองหรือลูก...เข้ามาก่อนๆ.."
แม่ของดิว ค่อนข้างเป็นคนใจดี แต่ทำไมวันนี้ ดูท่าทางโทรม เหมือนหักโหมงานหนักยังไงไม่รู้..
"แม่ค่ะ...ดิวล่ะ??..หนูมีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยค่ะ.."
แม่ของดิวทำหน้าเศร้า ไม่พูดไรสักครู่ ก่อนเดินไปหยิบไรสักอย่างบนตู้เก่าๆ...
"หนูน้ำ ...ดิวไม่อยู่แล้วน่ะ...เพิ่งจากไปสัปดาร์ที่แล้วเอง"
"หา....." จากนั้น แม่ของดิวก็ร้องให้ออกมา ฉันรู้สึกยังงกับว่า หุอื้อชั่วขณะ..
"นี่เปนของที่ ดิว ฝากให้ น้ำน่ะ...เขาเขียนไว้ ก่อนเขาจะจากไป"
ฉันรุ้สักตัวอีกที..ทันที่แม่ดิวพูดต่อ..
"ดิวเปนไรหรือแม่...ทำไมหนูไม่รู้เลย.."
"..น้ำไม่รู้หรอ?? ดิวไม่เคยบอกหรอ??ดิว..เป็นโรคหัวใจ...หนักมาก...เข้าห้องไอซียู ประมานสองสับดาห์ก่อน..แต่อยู้ได้แคสัปดาห์เดียว ดิวก้อหายออกจากโรรงบาลไป ทั้งที่หมอย้ำนักหนา ว่าห้ามออกไปไหน ไม่งั้น อาการจะยิ่งแย่...."
ฉันสะดุ้งขึ้นมาทันที ..นั้นมันวันที่ฉันปรึกษาเขา ..แล้วเขาก้อไปส่งฉันที่บ้านไม่ไช่หรอ!!..
"...ไม่รู้ว่าดิวไปไหน ไม่มีไครรู้ แต่พอตอนเย็นใกล้ค่ำของวันนั้น ดิวก้อกลับบมา พร้อม น้ำตา แล้วก้อ อาการก้อกำเริบอีก...หลังจากนั้น...หมอบอกว่า...ดิวไม่ไหวแล้ว..ดิวฝืนตัเองเกินไป....แต่ดิว...ดิวรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะ..."
แม่ของดิวหยุดแล้วก้อร้องไห้สะอื้นออกมา..
"ก่อนดิวจะเสีย ดิวขอกระดาษกับปากกา แล้วบรรจงเขียนด้วยแรงอันน้อยนิด...ซึ่งเห็นแล้ว ..น่าจะฝืนตัวเองน่าดู...สุดท้าย...ดิวก้อบอกว่า...ฝากจดหมายนี้ให้น้ำด้วย....แล้วบอกน้ำด้วยวา..."อย่าทะเลาะกับแฟนบ่อยละกัน"..พร้อมทั้งยิ้มออกมา...ซึ่งเป็นลมหายใจสุดท้ายของเขา..."
หลังจากนั้น ฉันก็ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าลาแม่ดิวมั้ย ไม่รู้ว่ากลับบ้านยังไง กลับมาตอนไหน เจอไครบ้าง ไม่รู้ ไม่รู้ๆ...รู้แค่ว่า น้ำตามมันไหล ไป และไหลไป เหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...
ฉันนั่งลงบนเตียง จ้องมองซองจดหมายที่ดิวเขียนไว้ พร้อมบรรจงเปิดมันอย่างช้าๆ...ข้างในมี กระดาษแผ่นเดี่ยวพร้อมข้อความ...เกือบเต็มหน้ากระดาษเขียนไว้แบบไม่ค่อยดุดีนัก ..ดิว คงจะฝืน เขียนหน้าดู..เมื่อนึกยังงั้นแล้ว น้ำตาก้อไหลพรั่งพรูออกมา..แบบไม่หยุดหย่อน..
เนื้อความมีอยูว่า...
"สวัสดี..น้ำ..ถ้าอ่านได้จดหมายนี่แล้ว...แสดงว่า..น้ำกำลังอ่านมันอยู่ ฮ่าๆๆๆ...พูดไรนี่เรา...เข้าเรื่องเลยดีกว่า..
น้ำ...น้ำรู้มั้ยว่า เราแอบชอบน้ำมานานแล้ว(ดราม่านิดๆ..) แต่น้ำ ไม่เคยรับรุ้เลย ทุกครั้งที่น้ำทะเลาะกับแฟน ใจเราอยากให้น้ำเลิกกับแฟนไปเลย แต่ปากของเราก้อบอกไห้น้ำไปคืนดี ตลอด...มันน่าตลกเนอะ..กับคนๆหนึ่งที่จริงจัย ขนาดไหน...แต่ไม่มีทางสมหวัง...
เราเหมือน เส้นทางที่ขนานกัน อยุ่ไกล้กันมาก แต่ไม่สามารถเอื้ือมมือไป แตะต้องกันและกันได้...ทรมานแทบขาดใจ..แต่ก้อต้องยอมรับ เพราะเส้นขนาน..ไม่มีทางบรรจบกัน...
..ความรักที่เรามีไห้น้ำ...มันอยู่ในห้วงลึกของหัวใจ...สามารถส่งเสียงแค่แผ่วเบาเท่านั้น ...ซึ่งน้ำไม่เคยได้ยินมันเลย...
เมือ่สัปดาร์ที่แล้ว...เรานอนอยู่โรงบาล..บังเอิญได่ยินว่า น้ำทะเลาะกับแฟนอีกแล้ว...เราอยากเชียร์ไห้น้ำเลิกกันน่ะ(ใจร้ายเนอะ)...แต่หัวใจกับร่างกายมันกระทำตรงกันข้ามกันเหลือเกิน...เราหนีออกจากโรงบาล..ไปหาน้ำ...ได้เห็นน้ำ ร้องไห้ หัวใจที่อ่อนแอ ก้อยิ่งเจ็บยิ่งขึ้นไปอีก..
..ทำไมน้ำไม่คิดมองเราน่ะ?? ถ้าเปนเรา เราไม่มทางทำไห้น้ำเสียจัยแบบนี้หรอก...
..แต่สุดท้าย ก้อต้องบอกน้ำ ให้ไปคืนดีกับแฟนอยู่ดี...
..เรารู้น่ะว่า น้ำ รักแฟนมาก..แต่เราอยากบอกว่า..น้ำสามารถหาแฟนไหม่..ได่ไม่ยากหรอก ที่สำคัญอย่าลืมรักตัวเองไห้มากๆ...
...อย่ามัวแต่มองตามคนที่เราชอบ แต่ไห้มองกลับหลังไปดูคนที่ชอบเราข้างๆบ้าง...
..เราไม่ได้หวังให้น้ำมามองเรา..ไม่ต้องมาแคร์เราหรอก..ไม่ต้องมาสงสารด้ว..แต่เราอยากไห้น้ำ อย่ายึดติดมากเกินไป ก้อแค่นั้น..
สุดท้าย..
เราอยากบอกว่า "เรารักน้ำน่ะ" และจะรัก จนกว่า ลมหายใจสุดม้ายที่เหลืออยู่จะหมดไป...
..รักมาก...
..ดิว...."
หลังจากได่อ่านแล้ว โลกของฉัน ก้อเหมือนขาดสมดุลไป.. เคว้งคว้าง..เหมือนไม่มีแรงโน้มถ่วง...น้ำตาเอ่อล้นออกมาเหมือนกระแสน้ำที่ไหล..แบบไม่รีรอไคร..
...นี่ฉันไม่เคยเห็นคนที่รักฉันขนาดนี้ได้ยังไงกัน....ทำไมฉันไม่รับรู้เลยน่ะ...ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ...................!!!
...นับจากวันนั้น สามเดือน ฉันก้อตัดใจจากแฟนเรียบร้อยแล้ว ฉันจะไม่หา ไม่คิดจะมองหาไคร...แต่ฉันจะรอ...รอไครสักคน ที่จะมาหาฉัน..
...แล้วบอกกับฉันว่า "ฉันชอบเทอ"..อย่างจริงใจ..เหมือนกับที่ดิวได้บอกฉัน ผ่านจดหมายของฉบับนั้นเขา..
................................................................................
เรื่องนี้สอนไห้รู้ว่า...
...อย่ามองคนที่เรารักที่อยู่ข้างหน้า จนลืมหันหลังมองคนที่รักเรา...
...คนที่เรารัก เขาอาจไม่รักเราก้อได้..
...แต่คนที่รักเรา..เขาจะมีแค่เราสุดหัวใจ...
......................................................................................
ความคิดเห็น